|
ภาษีบำรุงท้องที่
ที่ดิน หมายถึง พื้นที่ดิน รวมถึงภูเขาและแหล่งน้ำด้วย
เจ้าของที่ดิน หมายถึง บุคคลหรือคณะบุคคลซึ่งมีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน (สำรวจใหม่) ผู้มีหน้าที่เสียภาษี ยื่นแบบแสดงรายการที่ดิน (ภ.บ.ท.) ภายในเดือนมกราคม (สำรวจใหม่ทุกระยะ 4 ปี )
เสียภาษีภายใน เดือนมกราคม - เมษายน ของทุกปี หรือภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งประเมิน
คำนวณราคาปานกลางของที่ดินที่คณะกรรมการตีราคาปานกลางที่ดินกำหนดขึ้น เพื่อใช้ในการจัดเก็บภาษี X กับอัตราภาษี
เนื้อที่ดินเพื่อคำนวณภาษี (ไร่= เนื้อที่ครอบครอง-เนื้อที่ลดหย่อน) เนื้อที่ดินในเขตองค์การบริหารส่วนตำบล เนื้อที่ลดหย่อนไม่เกิน 5 ไร่
เงินเพิ่มไม่เสียภาษีในกำหนด เสียเงินเพิ่ม ร้อยละ 2 ต่อเดือนของค่าภาษี
บทกำหนดโทษ
โทษทางแพ่ง
* ไม่ยื่นแบบแสดงรายการ ภายใน เวลากำหนดเสียเงินเพิ่มร้อยละ 10 ของภาษี
* ยื่นแบบแสดงรายการ ไม่ถูกต้อง เสียเงินเพิ่มร้อยละ 5 ของค่าภาษี
* แจ้งจำนวนเนื้อที่ดินไม่ถูกต้อง ให้เสียเงินเพิ่ม 1 เท่าของภาษี
* ไม่ชำระภาษีภายในกำหนดเสียเงินเพิ่มร้อยละ 24 ต่อปี
โทษทางอาญา
* พยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษีบำรุงท้องที่ โทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือ
ทั้งจำทั้งปรับ
* ไม่ยอมชี้เขตหรือไม่ยอมแจ้งจำนวนเนื้อที่ดินโทษจำคุก 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำ
ทั้งปรับ
* ขัดขวางเจ้าพนักงาน โทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท
* ผู้ใดฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงาน โทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 หรือทั้งจำทั้งปรับ
ภาษีโรงเรือนและที่ดิน
หมายถึง ภาษีที่จัดเก็บจากโรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่นกับที่ดิน ซึ่งใช้ต่อเนื่องกับโรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างนั้น
โรงเรือน หมายถึง บ้าน ตึกแถว อาคาร ร้านค้า สำนักงาน บริษัท ธนาคาร โรงแรม โรงภาพยนตร์ โรงพยาบาล โรงเรียน แฟลต สนามมวย สนามม้า คลังสินค้า หอพัก ฯลฯ
ผู้มีหน้าที่เสียภาษีโรงเรือนและที่ดิน คือ เจ้าของทรัพย์สินนั้น ๆ
ค่าภาษี ผู้เสียภาษีชำระภาษีปีละครั้ง ตามค่ารายปีของ ทรัพย์สิน ในอัตราร้อยละ 12.5 ต่อปี
ขั้นตอนการเสียภาษี
1. เจ้าของทรัพย์สิน ยื่นแบบแจ้งรายการทรัพย์สิน (แบบ ภ.ร.ด.2) ภายในเดือน กุมภาพันธ์ของทุกปี
2. เจ้าหน้าที่จะทำการประเมินค่าภาษี
3. เสียภาษีภายใน 30 วัน นับถัดจากวันที่ได้รับแจ้งการประเมินหรือยื่นแบบ (ภายในเดือนมีนาคมของทุกปี)
4. หากไม่เสียภาษีภายในกำหนด ต้องเสียเงินเพิ่มดังนี้
- เสียภาษีไม่เกิน 1 เดือน เสียเงินเพิ่มร้อย 2.5 ของค่าภาษีค้าง
- เสียภาษีเกิน 1 เดือน แต่ไม่เกิน 2 เดือน เสียเงินเพิ่มร้อยละ 5 ของค่าภาษีค้าง
- เสียภาษีเกิน 2 เดือน แต่ไม่เกิน 3 เดือน เสียเงินเพิ่มร้อยละ 7.50 ของค่าภาษีค้าง
- เสียภาษีเกิน 2 เดือน แต่ไม่เกิน 3 เดือน เสียเงินเพิ่มร้อยละ 10 ของค่าภาษีค้าง
บทกำหนดโทษ
ไม่ยื่นแบบ (ภ.ร.ด.2) ภายในกำหนด ปรับ 200 บาท (มาตรา 46) แจ้งข้อความเท็จ โดยเจตนาที่จะหลีกเลี่ยงภาษี ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 500 บาท ความหมาย ป้ายแสดง ชื่อ ยี่ห้อ หรือเครื่องหมายในการประกอบการค้าเพื่อหารายได้ไม่ว่าจะแสดงหรือโฆษณาไว้ที่วัตถุใด ๆ ด้วยอักษร ภาพ เครื่องหมาย
ภาษีป้าย
ผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้าย คือ
1. เจ้าของป้าย
2. ผู้ครอบครองป้าย หรือ เจ้าของที่ดิน ที่ป้ายนั้นติดตั้งอยู่
การคำนวณพื้นที่ป้าย อัตราค่าภาษีป้าย
ป้ายที่มีขอบเขต คำนวณดังนี้
ส่วนกว้างที่สุด x ส่วนยาวที่สุดของป้ายนั้น
ป้ายที่ไม่มีขอบเขต คำนวณดังนี้ ให้ถือตัวอักษรภาพที่อยู่ริมสุดเป็นขอบเขตเพื่อกำหนดส่วนกว้างที่สุด ยาวที่สุด
อัตราภาษีป้าย แบ่งเป็น 3 อัตรา
ลักษณะ ราคา (บาท)
1. อักษรไทยล้วน
2. อักษรไทยปนอักษรต่างประเทศ/ภาพ/เครื่องหมาย
3. ป้ายที่ไม่มีอักษรไทย หรืออักษรไทยอยู่ใต้หรือต่ำกว่าอักษรต่างประเทศ 3/500 ตร.ซม.
20/500 ตร. ซม.
40/500 ตร.ซม.
การคำนวณภาษีป้าย ให้คำนวณโดยนำพื้นที่ป้าย คูณด้วยอัตราภาษีป้าย เช่น ป้ายที่ต้องเสียภาษีมีพื้นที่ 10,000 ตร.ซม. เป็นป้าย ประเภทที่ 2 เสียภาษี ดังนี้
10,000 / 500 x 20 = 400 บาท
ขั้นตอนการชำระภาษี
1. ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้าย (ภป.1) พร้อมหลักฐานภายใน เดือนมีนาคม ของทุกปี
2. พนักงานเจ้าหน้าที่ประเมินค่าภาษีป้าย
3. เสียภาษีป้ายภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งการประเมิน
4. ไม่เสียภาษีภายในกำหนด เสียเงินเพิ่มร้อยละ 2 ต่อเดือนของค่าภาษีป้าย
บทกำหนดโทษ
ไม่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้าย (ภ.ป.1) ปรับตั้งแต่ 5,000-10,000 บาท (มาตรา35) แจ้งข้อความเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 5,000-50,000 บาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ (มาตรา 34)
ข่าว ณ. วันที่ 18 มิ.ย. 2561 เวลา 10.37 น. โดย คุณ บุญฐิตา บุญด้วง
ผู้เข้าชม 377 ท่าน | |